mirror of
https://github.com/Koko-boya/Grasscutter_Resources
synced 2024-01-31 23:23:19 +08:00
87 lines
27 KiB
Plaintext
87 lines
27 KiB
Plaintext
"เมืองแห่งขุนเขา Arayama: บทที่ 1"
|
|
มันเป็นฝันร้ายที่ยังคงวนเวียนเหมือนเดิมทุกครั้ง ฝันร้ายที่ทำให้ Yutaka Riko ต้องหวนนึกถึงค่ำคืนที่เผ่าโอนิถูกทำลายลง
|
|
เมฆดำทะมึนครวญคลั่งโหมกระหน่ำปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เปลวเพลิงร้อนระอุแผดเผาแผ่ขยายออกไปราวกับหยดหมึกบนกระดาษ ทำลายบ้านเรือนหลายร้อยหลังอย่างบ้าคลั่ง เปลวเพลิงร้อนระอุลุกลามไปถึงมหาสมุทรจนเดือดระเหย เม็ดทรายบนชายฝั่งถูกหลอมละลายจนกลายเป็นของเหลวหนืด
|
|
หัวหน้าเผ่าผลัก Riko เข้าไปในห้องใต้ดิน คำพูดสุดท้ายที่ได้ยินนั้น ยังคงดังก้องอยู่ในหู กลบเสียงร้องคร่ำครวญอย่างเศร้าโศกรอบ ๆ ไปเสียสิ้น
|
|
"Kataba Shintetsu ทรยศพวกเราเผ่าโอนิ มันเป็นคนนำภัยพิบัติครั้งนี้มา!"
|
|
วิชาดาบของ Riko ได้รับการฝึกสอนโดย Kataba Shintetsu ในความทรงจำ Shintetsu เป็นหญิงสาวที่อ่อนน้อมถ่อมตน มักจะรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอยามที่พูดคุยกับผู้คน
|
|
จวบจนทุกวันนี้ Riko ยังคงไม่สามารถยอมรับได้ว่าอาจารย์ของเธอ นักดาบอัจฉริยะที่ทุกคนเคารพจะสามารถทำสิ่งที่โหดร้ายแบบนั้นได้ลงคอ
|
|
แต่ทว่าคาถาอาคม และตราประทับที่กระจัดกระจายปกคลุมอยู่ทั่วทั้งหมู่บ้าน ทั้งหมดเป็นหลักฐานที่ชัดเจนยิ่งกว่าอะไร สิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูดไว้ไม่มีทางผิดอย่างแน่นอน...
|
|
ตัวเรานั้นควรเผชิญหน้ากับ Kataba Shintetsu ด้วยจิตใจแบบไหนกันนะ?
|
|
Riko ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมายาว ๆ
|
|
การถอนหายใจนี้ทำให้เจ้าแมวขาวที่อยู่ข้าง ๆ เธอ สะดุ้งตื่นจากการนอนหลับ แมวขาวหรี่ตาที่ขุ่นมัวทั้งสองข้างแล้วซุกไซร้เข้าที่หลังมือของ Riko
|
|
"ขอโทษที่ทำให้เจ้าตื่นนะ Onigiri"
|
|
Riko หยิบชามไม้ออกมาวางตรงหน้าเจ้าแมวขาว ฟังเสียงลิ้นของมันเลียน้ำเบา ๆ พลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกกระโจมพัก
|
|
เมื่อมองลอดผ่านช่องว่างของกิ่งไม้ และใบไม้ จะสามารถเห็นเงาของหน้าผา และภูเขาที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ได้ โครงสร้างที่ซับซ้อนของอาคารที่ตั้งอยู่บนสันเขานั้น เรียกได้ว่าเป็นภาพที่มหัศจรรย์ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองจริง ๆ
|
|
เมื่อเข้าใกล้ "เมืองแห่งขุนเขา Arayama" ที่อยู่เบื้องหน้า ขุนเขาสูงตระหง่านถูกเจาะเป็นโพรง และเมืองที่สง่างามถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตทั้งภายใน และภายนอก ตามตำนานเล่าว่า "ชาวขุนเขา" ที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนเป็นลูกหลานของเคียวจิน (ยักษ์ใหญ่) พวกมันมีส่วนสูงเป็นสองเท่าของมนุษย์ธรรมดา แม้แต่พืชผลก็มีขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ ถึงแม้จะมีการสู้รบกับประเทศข้างเคียงหลายครั้ง แต่ก็น้อยครั้งนักที่จะพ่ายแพ้
|
|
แต่ทว่าเจ้าเมือง "เมืองแห่งขุนเขา Arayama" กลับไม่พอใจ เขากระหายที่จะครอบครองดินแดนทั้งหมดนั่น
|
|
เมื่อสามวันก่อน เจ้าเมืองได้เชื้อเชิญให้ Kataba Shintetsu เข้าร่วม "กองทัพ Arahara" เพื่อฝึกสอนวิชาดาบเผ่าโอนิที่น่าภาคภูมิใจให้ทหารที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา และ Shintetsu เอง ก็น้อมรับคำเชื้อเชิญนั้น...
|
|
ไม่ว่าเป้าหมายของ Kataba Shintetsu คืออะไร แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการค้นหาตัวเธอ โค่นล้มเธอ และลงโทษเธอให้สาสมกับสิ่งที่เธอทำลงไป
|
|
จากนั้น เธอจะทำตามเบาะแสที่หัวหน้าเผ่าเคยมอบให้เธอเพื่อแสวงหาความหมายที่แท้จริงของ "เส้นทางแห่งการเกิดและดับสูญ" และใช้ Magatama (หินรูปทรงหยินหยาง) ที่อยู่ภายในร่างของ Onigiri เพื่อชุบชีวิตผู้คนในเผ่า
|
|
เมื่อคิดถึงจุดนี้ Riko ก็เติมฟืนเข้ากองไฟอีกครั้ง ก่อนที่จะนอนตะแคงลง หลับตาลงงีบพัก เพื่อรักษาเรี่ยวแรงไว้สำหรับการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น
|
|
...
|
|
"เมืองแห่งขุนเขา Arayama: บทที่ 15"
|
|
การเผชิญหน้าที่พ่ายแพ้
|
|
เงาร่างของเจ้าเมืองผู้แข็งแกร่งยืนห่างออกไปประมาณร้อยก้าว เขายืนสังเกตการต่อสู้ด้วยตัวเอง และบั่นชีวิตทหารที่หลบหนีไปอีกหลายคน การลงมือครั้งนี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ทำให้กองทัพ Arahara เริ่มมั่นคงขึ้น ไม่มีใครกล้าพูดถึงการลอบสังหารเจ้านายของพวกเขาอีกต่อไป
|
|
"กลัวอะไรกัน! เจ้าโอนินั่นสูงยังไม่ถึง Lavender Melon ในทุ่งด้วยซ้ำ! จัดการมันซะ!"
|
|
พวกทหารมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จนกระทั่งเสียงคำรามโกรธจัดของแม่ทัพดังขึ้น จึงค่อยพุ่งตัวเข้าใส่ Riko
|
|
Riko ที่ได้ยินแบบนั้น มือที่ถือดาบไว้ก็สั่น จนทำให้ Onigiri ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมส่งเสียงร้องเบา ๆ อย่างตกใจ
|
|
ต้องขออภัยที่เผ่าโอนิของเราอาศัยอยู่บนเกาะอันห่างไกลเลยไม่ได้รับสารอาหารมากพอที่จะสูงขึ้น ในฐานะศัตรูแล้ว จึงดูไร้พลังไปบ้าง...
|
|
แต่ถ้าพึ่งพาแค่พลังก็ไม่สามารถเอาชนะใครได้หรอกนะ
|
|
Riko หมุนปลายเท้าข้างหนึ่งแล้วสะบัดให้รัศมีดาบประกายสีแดงเข้มโบยบินข้ามสนามรบ ฟาดฟันทะลุผ่านลำตัวของแม่ทัพไป
|
|
"Kissaki Yousen"
|
|
เป็นวิชาดาบอันทรงพลังที่วิญญาณเร่ร่อนของอดีตเจ้าเมืองมอบให้กับ Riko มันเป็นเพลงดาบมรณะที่สามารถใช้ออกได้โดยไม่สนใจระยะห่างในสนามรบ
|
|
เสียงเหล็กแตกดังขึ้น ดาบในมือของแม่ทัพศัตรูหักเป็นสองท่อน แม่ทัพส่งเสียงครางแผ่วเบาก่อนที่จะล้มลงไปบนพื้น!
|
|
เมื่อแม่ทัพสิ้นชีวิตลง การบุกโจมตีของกองทัพ Arahara ก็หยุดลงกะทันหัน เหล่าทหารเองก็ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า ไม่นานก็ตกอยู่ในความโกลาหล และสลายตัวไป
|
|
"เมืองแห่งขุนเขา Arayama" ก็ล่มสลายลงไปเช่นกัน เหล่าผู้คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงมานานก็ลุกฮือขึ้นมาบุกยึดคฤหาสน์ของเจ้าเมืองไป และนำเอาสิ่งที่เคยเป็นของพวกเขากลับคืนมา
|
|
แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่พบแม้แต่เงาของ Kataba Shintetsu...
|
|
ตอนที่ Riko เก็บดาบ ก็พลันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เมื่อเงยหน้ามองไปยังยอดเขา
|
|
ที่แท้ Shintetsu ก็ยืนเฝ้ามองการต่อสู้อยู่จุดที่สูงที่สุดในเมืองแห่งขุนเขา Arayama อย่างเงียบ ๆ ใบหน้าของเธอถูกซุกซ่อนอยู่ในเงามืด จึงไม่สามารถเห็นสีหน้าของเธอได้
|
|
ทั้งคู่สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ Shintetsu จะกระโจนหายไป
|
|
Kataba Shintetsu ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่กัน? หรือว่าหลังจากรับคำเชื้อเชิญของเจ้าเมืองแล้ว เธอกลับทรยศฝ่ายนั้นแล้วสังหารทิ้ง...
|
|
จะเป็นไปได้ไหมว่าตัวเธอยังคงหลงเหลือมโนธรรมอยู่บ้าง?
|
|
Riko ส่ายหัวไปมา นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดมาก หลังจากที่ปลอบโยน Onigiri เสร็จแล้วก็รีบมุ่งหน้าไปยัง เมืองแห่งขุนเขา Arayama
|
|
ถ้าไม่รีบไล่ตามไปล่ะก็ จะไล่ตาม Shintetsu ไม่ทันแน่นอน
|
|
...
|
|
"กรงเหล็ก Ryuutetsu: บทที่ 1"
|
|
พลาดท่าแล้ว ค่ายนี้เป็นแค่กับดักที่ถูกวางเอาไว้อย่างดี
|
|
ที่ Kataba Shintetsu ยอมเปิดเผยที่อยู่ของตัวเองก็เพราะต้องการหลอกล่อ Yutaka Riko ให้ก้าวเข้ามาในค่ายที่ได้ร่ายคาถาไว้มากมายแห่งนี้ ทันทีที่ Riko เหยียบย่างเข้าไปในค่าย คาถาที่ถูกร่ายไว้ก็ระเบิดขึ้นมา ส่งผลให้ Riko พลัดตกลงไปในรอยแยกระหว่างหุบเขา
|
|
ผลกระทบของการที่ร่วงหล่นลงมานั้นไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่เจ้า "กรงเหล็ก Ryuutetsu" ที่อยู่ก้นหุบเขานี่สิ เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด
|
|
รอยแยกของหุบเขานี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นทางผ่านระหว่างสองประเทศ และก็เป็นสนามรบที่เกิดเหตุการณ์อันน่าสลดใจที่สุดเช่นกัน ผู้คนนับล้านถูกฆ่าตาย ณ ที่แห่งนี้ หลังจากสิ้นสุดสงคราม ทั้งสองประเทศร่วมกันปิดการใช้งานเส้นทางสายนี้ และทิ้งอาวุธที่ถูกทำลายลงในรอยแยกนี้ วิญญาณของทหารที่เสียชีวิตในสงครามติดอยู่ในเศษเหล็กที่เปื้อนเลือด เศษเหล็กที่ถูกทำลายแหลกเป็นเสี่ยง ๆ นี้รวมตัวกันจนกลายเป็นลำธารแห่งทรายเหล็ก
|
|
ไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างพื้นดิน และทรายเหล็ก เมื่อสิ่งมีชีวิตได้เหยียบย่ำลงบนทรายเหล็กก็เหมือนถูกดึงให้จมลงไปในบึงน้ำ ไม่อาจจะขยับร่างกายได้ มีแต่ต้องถูกทรายเหล็กบดขยี้ร่างกายจากส่วนล่างของไล่ขึ้นมาจนถึงส่วนบน หากก้าวพลาดเพียงครั้งเดียว ก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก ทรายเหล็กประหลาดนี้ยังแผ่กระจายไปทั่วกำแพงหินราวกับเถาวัลย์ ถ้ายังคิดที่จะปีนกำแพงหินขึ้นไปล่ะก็ คงพูดได้คำเดียวว่าเพ้อฝัน!
|
|
มีเพียงการเดินช้า ๆ ไปตามเส้นทางด้านล่างของรอยแยกเท่านั้นที่จะหลบหนีได้แบบมีชีวิต แน่นอนว่าไม่มีใครเคยทำสำเร็จมาก่อน การตกลงไปในกรงเหล็ก Ryuutetsu นี้ก็ไม่ต่างอะไรจากถูกตัดสินโทษตาย
|
|
แต่ในขณะเดียวกัน Riko ก็รู้สึกโล่งใจ ตอนนี้เธอมั่นใจได้แล้วว่า Kataba Shintetsu ได้ละทิ้งความเมตตา และมโนธรรมไปหมดสิ้นแล้ว นับแต่วันนี้เป็นต้นไป Riko จะไม่หลงเหลือความลังเลใจในการกวัดแกว่งดาบอีกต่อไป
|
|
ไม่เพียงเท่านั้น Shintetsu ยังประเมินฝีมือของ Riko ต่ำไป แม้แต่กรงเหล็ก Ryuutetsu ไม่สามารถหยุดยั้ง Riko ได้ คิดไม่ถึงว่าความสามารถอันทรงพลัง "Reppuu Tenshoku" ที่เพิ่งตื่นขึ้นเมื่อไม่นานมานี้จะประโยชน์ทันที
|
|
ในขณะที่ Riko จะใช้พลัง ก็พลันเห็นหัวเล็ก ๆ สองหัวปรากฏขึ้นหลังกำแพงหินที่อยู่ไม่ไกล
|
|
เด็กหญิงตัวน้อยในชุดเก่า ๆ เหมือนผ้าขี้ริ้ว แต่นัยน์ตาของพวกเธอกลับเปล่งประกายไปด้วยแสงแห่งความหวัง
|
|
"พี่มาจากโลกภายนอกงั้นเหรอ?"
|
|
Riko พยักหน้าแล้วอุ้ม Onigiri จากในเสื้อคลุมให้ออกมาทักทายกับเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองเบา ๆ เด็กหญิงตัวน้อยได้พา Riko ไปยังถ้ำแห่งหนึ่ง ที่นั่น Riko ก็ได้พบกับพวกผู้ใหญ่ของพวกเขา ที่แท้ก็เป็นกลุ่มคนน่าสงสารที่หลงเข้ามาในกรงเหล็กนี่เอง
|
|
"พวกเราติดอยู่ที่นี่มาสองสามเดือนแล้ว พวกเราประทังชีวิตโดยอาศัยอาหารแห้งบนเกวียน, น้ำบาดาล, มอสส์ แล้วก็ผักป่า ถึงได้มีชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้..."
|
|
ที่นี่มีคนเก้าคนกับแมวหนึ่งตัว Riko ครุ่นคิดในใจ ถ้าหากใช้พลัง Reppuu Tenshoku ล่ะก็ จะสามารถพาพวกเขาทั้งหมดออกไปได้
|
|
ดังนั้นเธอจึงได้พูดขึ้นมาว่า:
|
|
"อยากจะหนีออกไปที่นี่กับฉันไหมล่ะ?"
|
|
คุณลุงผู้เป็นผู้นำกลุ่มจ้องมองมาที่เขาสีแดงซีดที่แสดงตัวตนถึงเผ่าโอนิของ Riko ด้วยแววตาลังเล
|
|
"นักรบท่านนี้...ถ้าฉันดูไม่ผิดล่ะก็ ท่านน่าจะมีเชื้อสายของเผ่าโอนิสินะ?"
|
|
ความไม่สบายใจพลันแล่นเข้ามาในใจของ Riko
|
|
"ใช่แล้ว ฉันคือคนจากเผ่าโอนิ มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?"
|
|
...
|
|
"กรงเหล็ก Ryuutetsu: บทที่ 14"
|
|
หางของ Onigiri เหมือนกับเข็มทิศ หลังจากที่แกว่งไปมาซักพัก ก็ชี้ไปยังด้านหน้าขวา Yutaka Riko ลองหยั่งเท้าก้าวไปข้างหน้า แล้วก็เหยียบลงบนก้อนหินอีกครั้ง
|
|
ทำได้!
|
|
ทางออกของรอยแยกอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว ถ้ารักษาความเร็วระดับนี้ไว้ได้ พรุ่งนี้ก่อนอาทิตย์จะขึ้น เธอกับ Onigiri ก็จะหนีออกจากกรงเหล็ก Ryuutetsu ได้
|
|
"สมแล้วที่เป็นเจ้า Onigiri"
|
|
จนถึงวันนี้ Riko ถึงได้ค้นพบว่าความสามารถในการมองเห็นวิญญาณของ Onigiri ไม่เพียงแต่จะค้นหาวิญญาณเร่ร่อน หรือแม้แต่ช่วย Riko ปลุกพลังความสามารถให้ตื่นขึ้นแล้ว แต่ยังสามารถใช้เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายได้อีกด้วย สำหรับ Onigiri แล้ว ดวงตาของมันสามารถมองเห็นวิญญาณพยาบาทของกรงเหล็ก Ryuutetsu ได้ชัดเจนราวกับการใช้สายตาธรรมดามอง ซึ่งนี่ทำให้มันสามารถหาเส้นทางออกที่ปลอดภัยได้
|
|
บางทีนี่ อาจจะเป็นผลมาจาก Magatama ในร่างกายของ Onigiri... วิญญาณของผู้คนในเผ่ากำลังปกป้องเธออยู่ใช่ไหมนะ?
|
|
ทั้ง ๆ ที่กำลังจะหนีออกไปได้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไม Riko ถึงไม่รู้สึกยินดีเลย
|
|
คำพูดของคนกลุ่มนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหูของ Riko ทำให้ Riko รู้สึกอารมณ์เสียนัก
|
|
"ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องอดตายอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่สามารถเชื่อใจพวกเผ่าโอนิได้!"
|
|
มันจะเกินไปแล้วนะ เป็นเผ่าโอนิแล้วมันจะทำไม?
|
|
ทุกคนใจดี ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบนเกาะห่างไกลแท้ ๆ ทำไมถึงถูกเผ่าอื่นเกลียดชังกัน?
|
|
แต่แววตาของเด็กน้อยสองคนนั้นช่างไร้เดียงสา Riko ทนดูพวกเขารอวันตายไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ทิ้งอาหารแห้งของตัวเองไว้ให้ และยังใช้ความสามารถของ "Kagamichuu Shubutsu" ทำอาหารซ้ำ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนมั่นใจว่าอาหารมีมากพอสำหรับให้คนพวกนั้นประทังชีวิตออกไปได้อีกครึ่งเดือน
|
|
Riko จดจำเส้นทางที่เพิ่งผ่านมาทั้งหมดไว้แล้ว หลังจากออกไปจากที่นี่เธอก็สามารถหากองทหารรักษาการณ์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วทำเครื่องหมายเส้นทางที่ปลอดภัยบนแผนที่ของพวกเขา เพื่อให้กองทหารรักษาการณ์สามารถเข้าไปช่วยชีวิตผู้คนที่ติดอยู่ในนั้นได้
|
|
เหนื่อยจังเลย เหนื่อยยิ่งกว่าการต่อสู้ที่ผ่าน ๆ มาซะอีก
|
|
ดวงตาทั้งสองข้างของ Riko เริ่มพร่ามัว พลางลูบ Onigiri ที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างเหม่อลอย
|
|
บางครั้ง สิ่งที่พวกเราต้องการอาจจะเป็นแค่แพะรับบาปซักคน เพื่อทำให้รู้สึกดีขึ้น
|
|
เงาร่างอันพร่ามัวปรากฏขึ้นในดวงตาของ Riko เธอพึมพำด้วยความคับแค้นที่ไม่อาจควบคุมได้
|
|
"ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของแก Kataba Shintetsu..."
|
|
"ครั้งหน้าฉันจะไม่ปล่อยให้แกหนีรอดไปได้อีกแน่"
|
|
... |