Grasscutter_Resources/Resources/Readable/TH/Book80_TH.txt

จิตวิญญาณของ Hilichurl

ก็คล้ายกันกับเหล่าผู้คนจากทั้งเจ็ดประเทศใน Teyvat ดูเหมือนว่าพวก Hilichurl เองก็มีความเชื่อเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่ได้เคารพสักการะเทพเจ้าทั้งเจ็ดที่มีอยู่ในโลกนี้ แต่เคารพสักการะพลังงานธาตุที่มีความเป็นนามธรรม ยกตัวอย่างเช่นเผ่า Hilichurl ที่อยู่ใน Mondstadt จะบูชา "ลม" เช่นเดียวกับผู้คนของ Mondstadt แต่พวกเขาก็ไม่ได้บูชาเทพแห่งสายลม Barbatos แต่จะบูชา "พลังงานธาตุลม" ในรูปแบบของตัวเอง โดยในเผ่าเดียวกันนั้นอาจจะมี Hilichurl ที่มีความเชื่อต่างกันรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งความเชื่อในพลังงานธาตุของพวกเขาก็จะแสดงออกมาทางรูปวาดบนหน้ากากและการเพนท์ร่างกาย

จากการลงสำรวจภาคสนาม ในหมู่ Hilichurl หมอผีผู้ทำหน้าที่บวงสรวงและสักการบูชาจะเพนท์สีที่แตกต่างกันบนร่างกายและเส้นขนของเขาตามความแตกต่างของพลังงานธาตุที่เผ่าบูชาอยู่ โดยเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่อยู่บนตัวของหมอผีนั้นจะมีความสวยงามประณีตมากกว่า แต่เมื่อพิจารณาถึงสติปัญญาที่ต่ำของ Hilichurl ก็ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่างานฝีมือที่ค่อนข้างละเอียดเหล่านี้เกิดขึ้นจากพวกเขา

หมอผีมีบทบาทเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณในระบบความเชื่อของพวก Hilichurl ซึ่งพิธีกรรมการสักการบูชาของ Hilichurl โดยส่วนใหญ่เป็นใช้การร้องเพลงเต้นรำเป็นหลัก ซึ่งมักจะให้หมอผีเป็นผู้นำในการเต้นรำและร้องเพลงสดุดีที่เกี่ยวกับธาตุต่างๆ และถ้าหากมีเหยื่อมากพอล่ะก็ Hilichurl ก็จะทำการบูชาเนื้อดิบบนแท่นเพื่อเป็นเครื่องสังเวย แม้ว่า Hilichurl มักชอบฉกฉวยปล้นเงินทอง, อัญมณีหรือของประดับอื่น ๆ แต่ดูเหมือนเนื้อเท่านั้นที่จะเป็นสิ่งเดียวที่ควรค่าแก่การบูชา

ดูเหมือนว่าพวก Hilichurl นั้นจะไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับ "อดีต" และ "อนาคต" แต่จะอยู่แค่กับ "ปัจจุบัน" เท่านั้น พวกเขาจะไม่สะสมอาหารเพื่อเผื่อไว้ในอนาคต และก็จะไม่มีการรำลึกถึงเหล่าบรรพบุรุษในอดีต ถึงแม้ว่าจะสามารถพบเห็นการขีดเขียนได้มากมายในค่ายของ Hilichurl แต่หลังจากการสำรวจก็สามารถพบคำตอบได้อย่างง่ายดาย: นั่นเป็นเพียงการเลียนแบบและทำซ้ำอย่างมั่ว ๆ ขึ้นมาจากโบราณสถานเท่านั้นและสามารถพูดได้ว่าไม่มีการสร้างสรรค์ใด ๆ ทั้งสิ้น เผ่า Hilichurl บางเผ่านั้นตั้งอยู่ในซากปรักหักพังโบราณซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะเกิดมาพร้อมกับความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้กับโบราณวัตถุเหล่านี้ แต่หลักฐานที่เรามีในตอนนี้นั้นไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับอารยธรรมโบราณที่สูญหายไปอย่างไร