หลักสัญญาณที่นำทางนักเดินทางกลับบ้านจากเส้นทางอันไกลโพ้น ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด นกอินทรีสีเงินก็เอนกายไปทางลมเสมอ ขนนกสีเขียวขจีหมุนวนขณะที่เธอร้องเพลงเบา ๆ นำทางผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาให้ก้าวไปในทิศทางของสายลมที่แผ่วเบา "ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้ามาจากที่ไหน หรือทำบาปอะไรไป มันก็แค่..." "นายน้อย" ที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ พูดพลางที่เช็ดเลือดออกจากใบหน้าของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน "เมื่อลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดผ่านแผ่นดิน ข้าอยากให้เจ้าคอยอยู่เคียงข้างข้าไว้" "ข้าเป็นผู้ฆ่าเหยี่ยวนั่นเอง เรื่องนี้ถือเป็นความลับระหว่างเรานะ..." เฉกเช่นญาติสายโลหิตที่ถูกหอกหลั่งเลือดในอนาคตและปล่อยให้หิมะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ หัวใจของเธอก็ถูก "นายน้อย" ที่แท้จริงทะลวงด้วยลูกศรที่มองไม่เห็น นับแต่นั้นมา เธอก็เฝ้าคอยดูสิ่งที่ต้องทำในฐานะผู้รับใช้ ขณะเดียวกันก็ให้ความสนใจกับ "ภาระงาน" ให้สำเร็จตามที่เขาได้พูดไว้ เธอใฝ่ฝันที่จะได้ยินเคียงข้างเขา...ไม่สิ แม้เพียงยืนข้างหลังท่ามกลางฝูงชนก็ยังดี และได้อาบสายลมปลิวไสวที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ ไปพร้อมกับเขา "นายน้อย" ที่แท้จริง ด้วยเหตุนี้จึงมีตะปูและข้อต่อจำนวนมากที่ต้องถอดออกเพื่อให้อาคารใหญ่พังทลาย... "อย่าเศร้าโศกไปเลย Priscilla ทุกสิ่งในโลกล้วนมีราคาของมัน" "จำไว้นะ เมื่อใดที่เกิดเรื่องไม่ดี จงไปยัง Stormbearer Point เพื่อจุดไฟแจ้งข่าว" "เมื่อลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดผ่านแผ่นดิน เจ้าและข้าจะเป็นกองหน้าที่ไม่มีใครจะหยุดยั้งได้" "ค่ะ นายน้อย Eberhart" ใช่ จงลืมสิ้นสายเลือดและหน้าที่ จงละทิ้งหัวใจที่พลัดพรากและปรารถนาเสียเถอะ ตะปูเหลืออีกไม่มากแล้ว ลมแห่งความรุ่งโรจน์อดีตกาลจะหวนกลับมาในไม่ช้า แต่ทว่า... กระทั่งเหยี่ยวและสุนัขล่าเนื้อของครอบครัวได้กลิ่นของแผนการนั้น เงานั้นก็ไม่เคยปรากฏในคาบสมุทรอีกเลย ในที่สุดเธอก็ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา เธอเคยรู้สึกไม่ชอบชะตากรรมของตนและโชคชะตาของผู้อื่นอีกนับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้เวลานี้ เมื่อเธอแหงนมองแสงจันทร์ขาวนวลผ่องและเงาดาบคล้ายแสงจันทร์ พลันจ้องมองไปที่ยังขุนนางที่เหยียดหยาม ไม่รู้ทำไมเธอกลับไม่รู้สึกลำบากใจหรือขุ่นเคืองเลยแม้แต่น้อย ตะปูเหลืออีกไม่มากแล้ว ลมแห่งความรุ่งโรจน์อดีตกาลจะหวนกลับมาในไม่ช้า นายน้อย ท่านเป็นเหมือนเหยี่ยวสีเงิน ที่นำทางสายลมให้พัดพา อย่าได้โศกเศร้าเพราะข้าเลย อีกไม่นานข้าก็จะกลายเป็นธุลีในสายลม...