Nagarjuna เอ๋ย เพราะได้รับแสงวิญญาณนับหมื่น ข้าจึงคุ้มครองดินแดนประสบภัยอันเป็นนิรันดร์ไว้ได้ ยามดินโคลนใต้เหวลึกทำให้อาณาจักรปฐมกาลแปดเปื้อน วิญญาณสุกสกาวที่หนุนนำเจ้าแห่งปัญญาจึงแตกกระจายออกเป็นหมื่นประเภท ข้าว่ายทวนสายธารแห่งความโศกา ด้วยความกระหายน้ำค้างหวานชื่น เปิดทางเพื่อให้วิญญาณใจเมตตาช่วยให้แสงการุญแห่งปัญญาสาดส่องไปทั่วทั้งสี่ทิศ Nagarjuna เอ๋ย เพราะได้รับแสงวิญญาณนับหมื่น ข้าจึงหล่อเลี้ยงวิญญาณใจเมตตาของทุ่งทะเลบุปผาไว้ได้ ดูเถิด แสงวิญญาณที่แสงเผยให้เห็น ทายาทคนสุดท้ายของเทพแห่งแมกไม้ ดูเถิด นักรบผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้นับร้อยครั้ง ศัตรูของปีศาจแห่ง Dev หมอกสลัวดำมืดที่อยู่นอกท้องฟ้า ก็ไม่อาจกัดกร่อนร่างของพวกมันได้ Nagarjuna เอ๋ย เพราะได้รับแสงวิญญาณนับหมื่น ข้าจึงได้อยู่เหนือผู้ตายแห่งแดนโสมมนี้ ชำระล้างบาปของผู้ไร้บาป ไปเกิดใหม่ในดินแดนบริสุทธิ์ที่ไร้ทุกข์ทรมาน ท่ามกลางจักระของโลกได้ซุกซ่อนเมล็ดแห่งกรรมที่จะให้กำเนิดทุกอย่างไว้ การเจริญและร่วงโรยชั่วขณะของโลก เป็นเพียงภาพลวงที่เมล็ดสร้างขึ้นในปัจจุบันนี้เท่านั้น Nagarjuna เอ๋ย เพราะได้รับแสงวิญญาณนับหมื่น ข้าได้ชำระล้างห้วงลึกแห่งสวรรค์จนเอี่ยมอ่องแล้ว ในที่สุดดินโคลนที่ทะลักจากใต้หุบเหวก็ล่าถอยไป ลูกหลานของ Dahri เองก็จำนนต่อกฎหมาย ร้อยบทเพลงประสานเสียงขับขาน สายพิรุณชะงักนิ่งชั่วขณะ Nagarjuna เอ๋ย หากกระแสน้ำแห่งความมืดปรากฏขึ้นอีกครั้ง ขุมนรกสีดำจะกลับมา จงขับขานบทเพลงสรรเสริญ เพื่อภาวนาต่อแสงวิญญาณที่ไม่เคยพ่ายแพ้เหล่านั้น แสงวิญญาณอันเป็นนิรันดร์ จะชี้นำเราไปสู่หนทางเบื้องบน