ตามตำนานเล่าว่าเมื่อราชาแห่งหินยังเยาว์วัย ดวงตะวันเคยเป็นราชรถสูงที่วิ่งแล่นไปรอบโลก เมื่อยามสามพี่น้องแห่งราตรีได้สิ้นชีวิตลงจากภัยพิบัติ ราชรถดวงตะวันก็ได้ร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึก ชาวเขาทุกคนต่างเชื่อว่าดวงตะวันจะได้รับการฟื้นฟู และกลับมาส่องสว่างบนท้องฟ้าที่มืดมิดได้อีกครั้ง แม้ว่าราชรถดวงตะวันจะกลับไปยังทิศตะวันออกอันไร้จุดสิ้นสุด แต่ชิ้นส่วนของมันกลับหลงเหลือบางสิ่งเอาไว้ตลอดกาล หลังจากที่ชาวเขาอพยพไปที่เมืองท่าแล้ว ก็ได้นำชิ้นส่วนนั้นไปบดเป็นทรายคริสตัล และขายให้กับผู้ที่รู้คุณค่าของมัน "อย่าพูดล้อเล่นแบบนั้น นั่นเป็นเพียงข่าวลือในหมู่ชาวบ้านที่ไม่ได้น่าเชื่อถืออะไร จะไปเชื่อได้ง่าย ๆ ได้ยังไงกันเล่า" "คนค้าขายใน Shenglu Hall ได้สิ้นความเขลาไปเนิ่นนานแล้ว ทั้งยังลืมอดีตที่ไร้สาระไปจนหมดสิ้นแล้วด้วย" "เพราะอย่างไรก็ตาม ทรายคริสตัลเรืองแสงก็ไม่เหมาะสมที่จะนำไปทำเป็นเครื่องปั้นดินเผา และไม่เหมาะกับการทำเป็นสีที่หรูหรา" "ตามคำบอกเล่าของคนงานเหมือง Chasm... แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องราวที่น่าเชื่อถือก็ตาม" "นาฬิกาเรือนนี้และทรายคริสตัลบางส่วนได้มาจากทหาร Millelith เมื่อห้าร้อยปีที่แล้ว" หุบเหวอันมืดมิดที่ความสว่างและความมืดต่อกรกันอยู่ แม้แต่ความแข็งแกร่งของยักษาก็ยากที่จะต้านทานเอาไว้ได้ มนุษย์ปุถุชนต้องการแสงสว่างยิ่งกว่า เพื่อที่จะได้ไม่หลงทางหายไปในม่านเหล็กอันมืดมิดที่กลืนกินผู้คนม่านนั้น ทหาร Millelith รวบรวมทรายเรืองแสงมาเพื่อส่องแสงสว่าง ซึ่งราวกับแสงจันทร์ที่นวลผ่อง ในการคำนวณเวลาที่มนุษย์ใช้ในหุบเหวลึก นาฬิกาเรือนนี้เป็นหลักฐานพิสูจน์ที่ยังคงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น