"เรื่องเล่านี้ เกี่ยวข้องกับเด็ก ๆ ที่หลงใหลในแสงจันทรา..." บางครั้งเมื่อแหงนมองไปที่ดวงจันทราสุกสกาว เด็ก ๆ เหล่านี้ก็จะโศกเศร้าเหมือนตอนราชาแห่งพงไพรองค์สุดท้ายใกล้สิ้นใจ มีอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า หากผู้ใดได้ดื่มน้ำขังในรอยเท้าราชาแห่งพงไพร ซึ่งมีจันทราเต็มดวงสะท้อนอยู่ในนั้น คนผู้นั้นก็จะกลายเป็นข้ารับใช้ของพระราชา เกี่ยวกับเรื่องราวของจันทรานั้นได้ยินมาจากความฝันอันเก่าแก่ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ใน Nilotpala Lotus ดอกหนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่ Aramuhukunda จะถือกำเนิดขึ้นในผลทาฑิม และเป็นช่วงเวลาที่เผ่าพันธุ์ยิ่งใหญ่อันสูงส่งและงดงามได้ร่วมทางกับบรรพบุรุษของพวกเจ้า เคยมีพี่น้องอยู่สามคน พวกเธอจะออกจากตำหนักสีมุก เดินเที่ยวอยู่ในทะเลทรายทุกคืน โดยมี Nilotpala Lotus บานอยู่ข้างเท้าพวกเธอ ... สุดท้ายแล้ว จันทราสองดวงได้แหลกสลายกลายเป็นผงธุลี แล้วหายลับไป คนสุดท้ายในสามพี่น้องเสียใจมาก จึงไม่ออกจากตำหนักนับแต่นั้นมา เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เศษผงของจันทราได้ตกลงบนพื้นดิน ซึ่งในขณะนั้น เทพแห่งป่าไม้ได้นำป่าไม้มาปลูกบนลงพื้นดินของทะเลทรายแล้ว Nilotpala Lotus จะเบ่งบานขึ้นในจุดที่ธุลีแห่งดวงจันทราร่วงหล่น เด็ก ๆ ที่สูดดมธุลีเหล่านั้นเข้าไป จะมีดวงจันทราสีมุกประทับอยู่ในใจตลอดกาล นี่จึงเป็นเหตุผลที่เด็ก ๆ มักจะหลงใหลในจันทรา เป็นเหตุผลที่ Nilotpala Lotus มักเบ่งบานในยามค่ำคืน รวมทั้งเหตุผลที่แสงจันทราโปรดปรานเด็ก ๆ เหล่านี้เป็นพิเศษด้วย เพราะสามพี่น้องที่ส่องแสงกันและกัน เฝ้ารอคอยการกลับมาพบกันใหม่อยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ Nilotpala Lotus ดอกนั้นเล่าเรื่องนี้จบก็ได้ร่วงโรยไป เธอรอคอยมายาวนาน รอจนกระทั่งทะเลทรายกลายเป็นผืนป่า เผ่าพันธุ์อันยิ่งใหญ่ล่มสลายไป พวกเราจึงได้ปรากฏขึ้นมา รอจนกระทั่ง Aranara ที่สามารถพูดคุยกับเธอปรากฏขึ้นตรงหน้า จากนั้นเขาก็ได้บอกเล่าเรื่องนี้กับข้าในเวลาต่อมา หลังจากนั้น Aranara ตนนั้นก็ได้สูญเสียความทรงจำไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่ง Vanarana ล่มสลายลง แล้วพวกเราก็เข้าไปในความฝัน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเรื่องราวของจันทราจะเติบโตเป็นดวงจันทราสีมุกอยู่ในใจของพวกเราทุกคน เด็กที่หลงใหลจันทราเมื่อแหงนมองพระจันทรา น้ำตาจะไหลรินออกมา เพราะฝุ่นผงละเอียดของดวงจันทราลอยเข้าไปในตานั่นเอง ในเรื่องราวต่าง ๆ นั้น ไม่มีน้ำตาหยดไหนที่เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์