-น้ำลง- ในช่วงเวลาที่ดวงจันทร์ถูกเมฆดำบดบัง บทเพลงเรือไม่ได้แผ่วเบาลง พายุในทะเลสงบลง และเศษซากของเรือลำใหญ่ก็ลอยไปทางห้วงเหวในทะเลอย่างช้า ๆ ปากรูปเกลียวมหึมาของมันอ้ากว้าง มีเสียงครวญครางดังสนั่นมาจากส่วนลึกในร่างมัน อสูรพอใจกับเหยื่อของมันยิ่งนัก มันเปิดเปลือกตาที่มีหินและปะการังเกาะอยู่ เพราะต้องการจะเห็นวาระสุดท้ายของคู่ต่อสู้ของมัน แต่นี่เป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของมันให้กับนายเรือผู้ใกล้ตาย เขาเห็นโอกาสอันดี และดวงตาคู่น้อยของเขายังมองเห็นหัวใจของอสูรที่มืดดำยิ่งกว่าห้วงเหวในทะเลลึก สายฟ้าเส้นสุดท้ายในพายุผ่าลงมา ท้องฟ้าสว่างวาบ กระโดงเรือถูกฟันเกลียวของอสูรตัดขาดเป็นสองท่อน และถูกบดให้เหลือเป็นเศษไม้ แม้แต่เสียงกรีดร้องของกระดูกงูก็ถูกกลบไปด้วยเสียงคลื่น จากนั้น ทุกอย่างกลับสู่ความมืดมิด...จนกระทั่งเสียงคำรามของอสูรร้ายดังก้องขึ้นเหนือผืนน้ำอีกครั้ง นายเรือใช้ดาบที่หักของเขาแทงเข้าไปในตาอสูรครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งทั่วร่างเขาเต็มไปด้วยพิษและคราบเลือด และดาบหักของเขาปักคาอยู่ในลูกตาของอสูร นายเรือถูกกรงเล็บแหลมคมจับนับครั้งไม่ถ้วน และในตอนที่ชีวิตของเขากำลังจะพบกับจุดจบ เขาก็ยังต่อสู้ด้วยหมัด ฟัน และเล็บของเขา ในช่วงเวลาที่เขากำลังจะถูกกรงเล็บอันแหลมคมของอสูรฉีกเป็นชิ้น ๆ... ท่วงทำนองเพลงเรือที่คุ้นหูก็ลอยมากับสายลม เจ้าอสูรหยุดชะงักไปชั่วขณะ "มาร้องขับขานบทเพลงแห่งท้องทะเลกับฉัน บทเพลงแห่งความปรีดา "เมื่อกระแสลมพัดมา ฉันก็รู้ว่าต้องจากเขาไป "ฉันได้ยินเสียงของกัปตัน เรียกให้ฉันกลับไป "โปรดจดจำฉันและกัปตันผู้สูญหายไว้ และร้องเพลงนี้อีกครั้ง "สักวันหนึ่ง คุณจะพบฉัน หลับไหลอยู่ในห้วงเหว... "...บางทีเมื่อนั้น คุณอาจถูกกระแสน้ำวนกลืนกินเช่นกัน" หนวดของอสูรทะเลชูขึ้นสูงจนดูคล้ายบัลลังก์ หญิงสาวผู้ร้องขับขานเพลงนอนหงายลง มันใช้หนวดของมันรัดตัวเธอไว้และใช้กรงเล็บอันแหลมคมแทงไปบนผิวหนังเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เธอก็ยังร้องเพลงอำลาให้นายเรือ จากนั้น หญิงสาวก็ถูกอสูรลากลงไปใต้ทะเลอันดำมืด ในยุคที่มหาสมุทรถูกปกครองด้วยภัยพิบัติ มนุษย์เร่ร่อนต้องล้มตายรายวัน นายเรือตื่นขึ้นมาบนเรือพาณิชย์ที่ไม่รู้จัก เขาได้สูญเสียเรือของเขาและลูกเรือทั้งหมดไป เหลือเพียงร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล ความฝันในวันวานของห้วงทะเลลึกและเพลงเรือ... "เมื่อกระแสลมและคลื่นเป็นใจ ฉันจะออกไปแก้แค้นให้เธอ สาวน้อยผู้หลงใหลไปกับเสียงคลื่น..."